ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม. มีความคืบหน้าของการก่อสร้างมากกว่า 40% ตามแผนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กำหนดแล้วเสร็จเดือน พ.ค. 2560 หรืออย่างช้า ปี 2561 เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรคทำให้การก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด 1 ปีเต็ม

        เจ้าสัวแข่งลงทุนรับสายสีแดง

        ปัจจุบันเริ่มมีความเคลื่อนไหวจากภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจใต้ปีกเจ้าสัวเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม ซี.พี.แลนด์ของนาย ธนินท์ เจียรวนนท์, กลุ่มทีซีซีแลนด์ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ที่เข้าไปกว้านซื้อที่ดินแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามานานหลายปี

        ล่าสุดเตรียมขยับลงทุนเดินหน้าพัฒนาโครงการ หลังผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบันปลดล็อกการพัฒนาได้มากขึ้น โดยเฉพาะย่านนอร์ธปาร์ค ทำเล จุดกึ่งกลาง 2 สถานีรถไฟฟ้า ระหว่าง "สถานีหลักสี่-ทุ่งสองห้อง"

        ซีพีทุ่มพันล้านผุดออฟฟิศหรู

        นายศัลย์ มูลศาสตร์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มงานบริหารอาคาร บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายในไตรมาส 1/59-2/59 จะเริ่มก่อสร้างสำนักงานให้เช่าเกรดเอ "ซีพีทาวเวอร์ 4 นอร์ธปาร์ค" บนที่ดิน 4 ไร่เศษ สูง 18 ชั้น และชั้นใต้ดิน พื้นที่ก่อสร้าง 46,638 ตร.ม. แบ่งเป็นพื้นที่เพื่อเช่า 27,000 ตร.ม. ราคาค่าเช่าเฉลี่ย 600 บาท/ตร.ม. ลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท

        ทั้งนี้ เป็นแลนด์แบงก์ที่บริษัทซื้อเก็บไว้นานแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน จากนั้นจะยื่นขออนุญาตการก่อสร้าง ตามแผนกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2560 เพื่อรองรับตลาดสำนักงานกรุงเทพฯโซนเหนือ

        "ที่ดินแปลงนี้มีศักยภาพมากขึ้น หลังรัฐบาลมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต เป็นการเปิดพื้นที่การพัฒนากรุงเทพฯโซนเหนือมากขึ้น"

        นายศัลย์กล่าวต่อว่า สำหรับสำนักงานให้เช่า ลงทุนไปแล้ว 8 โครงการ ในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในภูมิภาค เช่น ขอนแก่น พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี โคราช อุดรธานี นครศรีธรรมราช เพื่อรองรับเออีซี ตั้งเป้ารองรับลูกค้าบริษัทจากส่วนกลางเข้าไปลงทุนต่างจังหวัดมากขึ้น

        โดยโมเดลต่างจังหวัด เป็นอาคารสูงไม่เกิน 23 เมตร หรือ 6 ชั้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 7,000 ตร.ม. ดังนั้น สำนักงานให้เช่าที่นอร์ธปาร์คถือว่าเป็นการลงทุนใหญ่ที่สุด

        "บริษัทตั้งเป้าปี'60 จะมีพื้นที่ออฟฟิศ บิลดิ้งรวม 5 หมื่น ตร.ม. ในต่างจังหวัด และในเขตกรุงเทพฯ อีก 5 หมื่น ตร.ม. โดยปลายเดือน พ.ย.นี้จะรีโนเวตตึก ซีพี ทาวเวอร์ สีลม แล้วเสร็จ โดยปรับโซนด้านล่างให้เป็นพื้นที่ค้าปลีกมากขึ้น"

        ทีซีซีแลนด์ลุยมอลล์

        ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากกลุ่มซีพีที่ประกาศแผนลงทุนชัดเจน ล่าสุด มีกระแสข่าวออกมาว่าทางกลุ่มทีซีซีแลนด์เตรียมลงทุนพัฒนาที่ดินในนอร์ธปาร์คเพิ่ม ก่อนหน้านี้มีสนามกอล์ฟและคอนโดมิเนียมแบรนด์ "นอร์ธปาร์ค เพลส" มูลค่าโครงการกว่า 1,700 ล้านบาท ที่สร้างเสร็จและเปิดขายไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเปิดขายโครงการเฟสใหม่ ราคาเริ่มต้นยูนิตละ 10 ล้านบาท

        พร้อมกับออกแบบพื้นที่รอพัฒนาอีก 300 ไร่ โครงการ "นอร์ธปาร์ค มาสเตอร์แพลน" พื้นที่หลังสนามกอล์ฟราชพฤกษ์ นอร์ธปาร์ค ติดศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เนื้อที่ 200-300 ไร่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Ultimate Town"

        แหล่งข่าวจากวงการพัฒนาที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทราบว่าทางกลุ่ม ทีซีซีแลนด์เตรียมนำที่ดิน 200-300 ไร่มาพัฒนา โดยออกแบบเป็นโครงการมิกซ์ยูส มีทั้งสำนักงานให้เช่าและคอมมิวนิตี้มอลล์ เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีแดง อยู่ระหว่างปรับแบบ หลังจากผังเมืองปรับปรุงให้พื้นที่บริเวณดังกล่าว เดิมเป็นสีส้ม (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง) เป็นพื้นที่สีเดง (พาณิชยกรรม)

        "ตอนนี้ใครที่มีที่ดินแนวรถไฟฟ้าสาย สีแดงก็เริ่มเตรียมที่จะนำมาพัฒนา"

        จีแลนด์ลุย 3 โครงการ

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีกลุ่มจีแลนด์ ที่เตรียมเปิดหน้าดิน 35 ไร่ใกล้แยกหลักสี่ ติดถนนกำแพงเพชร อยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง เตรียมนำมาพัฒนาคอนโดมิเนียม

        ก่อนหน้านี้ ปลายปี 2557 นายโยธิน บุญดีเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือจีแลนด์ กล่าวว่า มีแผนนำที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงมาพัฒนา 3 โครงการ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท ได้แก่ คอนโดฯ "เบ็ลสกาย" ย่านหลักสี่ ใกล้โรงแรมมิราเคิล บนพื้นที่ 36 ไร่ สูง 16 ชั้น 17 อาคาร ราคาขาย 7 หมื่นบาท/ ตร.ม.ขึ้นไป มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท, แกรนด์ คาแนล ดอนเมือง เฟส 2 บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ บ้านเดี่ยวราคา 7-8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

        และคอนโดฯพื้นที่ติดกับแกรนด์ คาแนล ดอนเมือง เฟส 2 พื้นที่ 30 ไร่ ออกแบบเป็นอาคารสูง 16 ชั้น 6-7 อาคาร คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ทั้ง 3 โครงการอยู่ระหว่างการออกแบบ

        สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุด บริษัทชะลอการพัฒนาโครงการออกไป เพื่อปรับรูปแบบโครงการใหม่ให้รองรับกับแนวรถไฟฟ้า และสอดคล้องกับผังเมืองรวมที่ประกาศใช้ใหม่ คาดว่าเริ่มการก่อสร้างในปี 2559